Oh! My Friend รัก-หลอก จงบอกมา! - Oh! My Friend รัก-หลอก จงบอกมา! นิยาย Oh! My Friend รัก-หลอก จงบอกมา! : Dek-D.com - Writer

    Oh! My Friend รัก-หลอก จงบอกมา!

    แม้ความรัก(ของฉัน)จะต้องการความชัดเจน แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังต้องการ "เวลา" ด้วยเช่นกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    72

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    72

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  10 ก.ค. 59 / 21:53 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    สวัสดีนักอ่านทุกท่านที่ถูกกระแสแห่งพรหมลิขิตบันดาลชักพา ณ ที่แห่งนี้  นี่เป็นเรื่องสั้น(ๆ) เกี่ยวกับความไร้เดียงสาของเด็กมัธยมปลายซึ่งเป็นวัยใสสดของชีวิต เป็นเรื่องที่แต่งจบแล้วมีความต้องการนำเสนอให้พี่น้องนักอ่านนักเขียนทุกท่านได้ลิ้มลอง 

    มิว่ารสชาติจะถูกปากถูกใจหรือไม่ ขอขอบคุณในน้ำใจใสสะอาดที่แวะเวียนมาชม... 

    ตัวละครหลัก: ณัช, รถด่วน 

    Oh! My Friend รัก-หลอก จงบอกมา!

    เสียงดังวุ่นวายคล้ายตลาดนัดยามเช้าไม่บอกไม่รู้เลยนะว่านี่เป็นสถานที่สิงสถิตของหมู่มวลมนุษย์ผู้ได้ชื่อว่าเป็นศิษย์ที่แสนจะน่าภาคภูมิใจ ห้องหนึ่งที่รวมเด็กนักเรียนหัวกะทิไว้ล้นห้องได้เผยธาตุแท้ของจริงให้ผู้หลักผู้ใหญ่ทั้งหลายได้เห็นเป็นขวัญตามาแล้วตั้งแต่ ม.4 จนถึงตอนนี้พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายก็คงรู้ตัวแล้วว่า นี่เป็นห้องที่มีแค่คำว่า คิงไม่ได้เป็น  คิงออฟเดอะคิงอย่างที่คิด ความจริงกับจินตนาการอย่างไรก็ยังห่างชั้นกันอยู่ดี

    ณัช’ เด็กสาวผมยาวหยักศกนั่งสงบสติอารมณ์ของตัวเองอยู่ที่โต๊ะมุมหลังสุดของห้อง สายตาเอือมระอากับภาพเบื้องหน้าที่ได้เห็น เพื่อนๆ เล่นวิ่งไล่จับกันในห้อง บ้างก็เล่นกระดาน ขีดเขียนรูปวาดเกินพิกัดของนักเรียนรุ่นพี่ชั้นปีสุดท้าย นี่เป็นอีกเพียงแค่ปีเดียวเท่านั้นที่เธอจะได้เรียนรู้ร่วมห้องกับเพื่อนที่แสนประเสริฐทั้งหลายเหล่านี้

    ทำไมมานั่งอยู่คนเดียวล่ะ ไม่ไปเล่นด้วยกันเหรอเสียงนุ่มทุ้มใสดังผ่านเข้ามาในโสตประสาท ณัชที่นั่งฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างหมดอาลัยตายอยากเงยหน้าขึ้นมาดู ‘รถด่วน’ บ้าชิบทำไมหมอนี่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับฉันด้วยนะ ณัชบ่นในใจ  การที่ได้เห็นหน้านายรถด่วนทำให้เลเวลความเซ็งสุดขีดของเธอเพิ่มขึ้นอย่างถึงขีดสุด เธอฟุบหน้าลงอย่างเดิม รถด่วนมองอย่างงงๆ แล้วเขาก็หย่อนตัวนั่งลงที่โต๊ะข้างๆ ณัชโคตรเซ็ง

    ไม่มีเหตุผลอะไรมากมายที่ทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดกับการปรากฏตัวของรถด่วน ก็แค่ ประการแรกคือ เธอไม่ชอบเขา รถด่วนเป็นคนที่เรียนเก่งมากโดยเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ที่สอบทีไรเป็นต้องได้คะแนนท็อปทุกที มันเป็นเรื่องดีถ้าจะคบค้าสมาคมกับเพื่อนที่เซียนวิชาคณิต ทว่ารถด่วนกลับถ่อมตัวซะจนน่าหมั่นไส้ ไม่ว่าใครจะขอให้เขาช่วยสอนให้แค่ไหน รถด่วนก็เอาแต่ปฏิเสธท่าเดียวและบอกว่าตัวเองไม่เก่งวิชานี้เลย หนำซ้ำยังไปเที่ยวขอให้คนอื่นๆ ที่เรียนแย่กว่านี้ช่วยสอนให้อีก โดยเฉพาะกับณัช ที่ซมซานกับวิชาคณิตศาสตร์มาก กว่าจะผ่านเส้นยาแดงผ่าแปดมาได้ ประการที่สอง--ประการสุดท้าย--คนหน้าเนื้อใจเสือเช่นรถด่วนกลับประกาศตัวกับทุกคนว่าเขาชอบเธอ ณัชอับอายขายขี้หน้ามากกับเรื่องนี้เพราะนั่นเป็นการกระทำที่หยามหน้าเธอมากที่สุดและให้อภัยไม่ได้  

    การประกาศตัวว่าชอบณัชทำให้เพื่อนๆ เอาแต่ล้อว่าณัชกับรถด่วนคบกัน ทั้งยังสนับสนุนให้ทำกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันอีก เช่น ถือพานไหว้ครู  เป็นตัวแทนห้องแข่งขันมารยาทไทย ฯลฯ ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมใดๆ หากเป็นกิจกรรมที่ต้องทำเป็นคู่ทุกคนก็สมัครสมานใจสนับสนุนณัชกับรถด่วน  และเขาก็ดูเหมือนจะชอบใจที่ถูกล้ออย่างนั้นแต่ไม่ใช่สำหรับณัช เธอไม่ชอบเขาไม่ว่าจะด้วยเหตุผลที่บอกไปแล้วหรืออะไรก็ตาม ยิ่งเขามาตีสนิทชิดเชื้อ อาสาช่วยเหลือโน่นนั่นนี่ ถือกระเป๋าให้เธอทั้งที่ตัวเองก็แบกสัมภาระนั้นแทบจะไม่ไหว ชอบทำตัวเป็นเตี้ยอุ้มค่อมซึ่งทำให้ณัชหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เธอไม่ใช่ผู้หญิงที่อ่อนแอและเธอก็ไม่ชอบผู้ชายที่ไม่จริงจังจริงใจอย่างรถด่วนด้วย

    อั่นแน่ สองคนนั้นเค้าสวีทกันอีกแล้วว่ะ พวกเราดูเร็วเสียงพูดกวนบาทาทำให้ณัชถึงกับเงยหน้าขึ้นมา ถลึงตามองคนพูดอย่างเอาเรื่อง ชานนท์ถึงกับสะดุ้งเฮือกเมื่อสบสายตาคู่นั้น ยะ...อย่ามองฉันด้วยสายตาแบบนั้นสิ น่ากลัวชานนท์พูดเสียงสั่น ณัชมีดวงตากลมโตเหมือนชาวอินเดีย แต่พ่อกับแม่ของเธอยืนยันได้ว่าเธอเป็นคนไทย เชื้อชาติและสัญชาติไทยจริงๆ ขนตางอนยาวของเธอขับให้ดวงตากลมโตคู่นั้นดูสวยงามและน่าเกรงขามในเวลาเดียวกัน ไม่มีใครอยากมองตาเธอเวลาเธอโกรธ เช่นเดียวกับที่ไม่มีใครอยากละสายตาเวลาที่เธออารมณ์ดี ณัชมองเพื่อนๆ จนทุกคนหันหน้าหนีกลับไปทำกิจกรรมของตัวเอง รถด่วนยิ้มอย่างอารมณ์ดี

    ขู่เพื่อนๆ ด้วยสายตาอีกแล้ว น่ากลัวจริงๆเขาพูด ณัชมองเขาด้วยหางตา นายกลับไปนั่งที่ได้แล้วเธอไล่เขาแล้วหยิบหนังสือเรียนขึ้นมาอ่าน คาบนี้เป็นวิชาภาษาไทย ณัชมองดูนาฬิกาข้อมือ คาบเรียนช่วงบ่ายทำให้เธอรู้สึกเซ็งจิต

    นี่มันก็ผ่านมาตั้งครึ่งชั่วโมงแล้ว ครูคงไม่มาแล้วล่ะรถด่วนบอก

    ใครถามไม่ทราบณัชพูดโดยไม่หันไปมอง สายตายังคงจับจ้องอยู่ที่ตัวหนังสือตรงหน้า เธอไม่อยากให้เขามาอยู่ตรงนี้เลย มันน่าหงุดหงิดชะมัดและอ่านหนังสือไม่รู้เรื่องเลยสักนิด

    ถ้าอยากอ่านหนังสือ เราไปห้องสมุดด้วยกันไหมแบบนี้ประจำ ทำไมต้องมาชวนไปนั่นไปนี่ด้วยนะ

    ไปเล่นกับเพื่อนนายเลยไป

    ก็เธอนี่ไง เพื่อนฉันเขาว่าและยิ้มให้เธออย่างกวนๆ ณัชแทบจะทนไม่ไหว เธอมองเขาด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความรำคาญ

    ถ้าเราเป็นเพื่อนกันก็เลิกปั่นหัวทุกคนให้คิดว่าเราเป็นแฟนกันเสียที นายมันงี่เง่าจนฉันไม่อยากจะอยู่ใกล้เลยณัชพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดก่อนจะลุกหนีไป ไม่ใช่แค่รถด่วนที่ได้ยินประโยคเหล่านั้น แม้แต่เพื่อนๆ ในห้องก็ยังได้ยินและทุกคนก็คิดเพียงว่าทั้งสองทะเลาะกัน มุกดาเดินเข้ามาหารถด่วนและปลอบเพื่อนชายของเธอ

    อย่าคิดมากเลย มันอาจเป็นวันเบาๆ ของเธอทุกคนฮาครืน ทว่ารถด่วนขำไม่ออก

    ************************


    ที่บ้าน ณัชนั่งดูการ์ตูนกับพี่น้องของเธอ สายตาที่บ่งบอกถึงความหงุดหงิดทำให้พวกพี่น้องหวาดผวาไปตามๆ กัน และพวกเขาก็เดาได้ไม่ยากว่าเธอหงุดหงิดเรื่องอะไร ณัชไม่ใช่คนที่ปกปิดความลับกับครอบครัว เธอมักจะเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในโรงเรียนให้ฟังรวมทั้งเรื่องที่รถด่วนประกาศตัวว่าชอบเธอด้วย แรกๆ ณัชคิดว่าเขาล้อเล่นและถึงจะเป็นเรื่องจริงเธอก็ไม่ได้คิดว่าการชอบเพื่อนคนหนึ่งจะเป็นเรื่องผิดอะไร ทว่ารถด่วนกลับไม่เคยปฏิเสธเลยเวลาที่เพื่อนในห้องล้อว่าทั้งสองเป็นแฟนกัน นั่นทำให้ณัชสงสัยในความรู้สึกที่รถด่วนมีต่อเธอ แน่นอนว่าเธอถามเขาเมื่อมีโอกาส

    ครั้งหนึ่งที่ไปทัศนศึกษาด้วยกันทั้งห้องเมื่อตอน ม.5 ขณะที่ทุกคนกำลังสนุกสนานไปกับการเล่นน้ำทะเลก่อนกลับบ้าน ณัชที่เล่นน้ำทะเลอยู่กับเพื่อนๆ ก็ถูกรถด่วนแกล้งสาดน้ำทะเลใส่ เพื่อนๆ ยอมว่ายออกไปเพื่อเปิดทางให้ทั้งสองคนได้เล่นน้ำด้วยกัน ณัชจึงได้โอกาสถามรถด่วนออกไปว่า ‘บอกมานะรถด่วนจริงๆ แล้วนายชอบฉันแบบไหนกันแน่ แบบเพื่อนหรือแฟน’ เธอถามเสียงดังและจริงจัง สบตาอีกฝ่ายอย่างคาดคั้นคำตอบ รถด่วนยิ้มแล้วก็ตอบออกมาสบายๆ ว่า ‘แบบเพื่อน

    เธอไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงได้รู้สึกโกรธกับคำตอบของรถด่วน ทั้งๆ ที่เธอก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขา ทำไมต้องรู้สึกเศร้าราวกับว่าเสียใจกับคำตอบนั้น ณัชไม่เข้าใจตัวเอง แต่เหตุการณ์นั้นก็ทำให้เธอหงุดหงิดและรำคาญใจได้ทุกครั้งที่เห็นหน้ารถด่วน

    พี่ว่าเธอมีปัญหานะพี่กัน พี่สาวคนโตของบ้านพูดขึ้นเมื่อเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของน้องสาวคนแกร่ง ณัชไม่ใช่คนที่จะปล่อยให้มีปัญหาค้างคาใจไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวเธอเองหรือของพี่น้อง ณัชจะจัดการมันได้เสมอ เธอตัดสินใจหันไปปรึกษาพี่และน้องสาว เพราะไม่ว่าคนเราจะแกร่งหรือเข้มแข็งแค่ไหนก็ไม่ได้แปลว่าจะต้องแก้ไขปัญหาเพียงลำพังเสมอไป ถ้าไม่ไหวก็แค่หาคนร่วมทาง

    ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอหงุดหงิดที่รถด่วนทำตัวเหมือนกับว่าเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเธอกันพูด ณัชถอนหายใจ

    พี่ณัชกลัวจะไม่มีใครจีบเหรอศิถามแทงใจดำ ถึงแม้ว่าณัชจะเป็นคนที่เอาจริงเอาจังกับการเรียนมากแต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธเรื่องนี้ การมีแฟน บางครั้งก็ไม่ได้เสียหายอะไร หากว่าทำทั้งสองอย่างให้ลงตัวไม่มั่วกัน รู้รักเป็นรัก รู้เรียนเป็นเรียน รู้จักแบ่งเวลาให้ลงตัว ทำไมถึงจะมีรักไปด้วยเรียนไปด้วยไม่ได้ การมีแฟนไม่ได้แปลว่าต้องเสียการเรียนเสมอไปเสียหน่อย หากช่วยกันเรียนแล้วความรักก็คือพลังที่นำไปสู่ความสำเร็จได้ไม่ใช่หรือ

    แต่การที่รถด่วนทำตัวอย่างนั้น มันทำให้เพื่อนๆ เข้าใจผิดและทำให้เธอเสียโอกาส คงไม่มีใครกล้ามาจีบคนที่มีแฟนอยู่แล้ว และการเอาใจช่วยเชียร์รถด่วนกับเธอให้เป็นแฟนกันของเพื่อนๆ ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ รถด่วนไม่ได้ชอบเธอแบบแฟนและเธอก็เกลียดรถด่วนเข้าไส้เข้าพุง เพราะเขายังตีหน้าด้านชาไม่ปฏิเสธอะไรเลย มิหนำซ้ำยังทำเหมือนกับว่าจะจีบเธออีกทั้งที่ความจริงแล้วไม่ใช่ ณัชคิดว่าเขาต้องการแกล้งเธอเท่านั้น และนั่นทำให้เธอไม่ชอบเขาอย่างที่สุด

    บางทีพี่รถด่วนอาจปลื้มพี่แบบเพื่อนจริงๆ ก็ได้นะ เหมือนที่พี่ปลื้มพี่ลูกฟลุ๊คไงศิพูด

    พี่ปลื้มลูกฟลุ๊คแบบเพื่อนปลื้มเพื่อนจริงๆ ก็เขาเป็นคนเก่ง ใจดีและชอบช่วยเหลือเพื่อนๆ ในห้อง ถึงเขาจะมองว่าพี่กับรถด่วนเป็นแฟนกันจริงๆ ก็เถอะ...เพราะหมอนั่นแท้ๆ ทำให้ลูกฟลุ๊คไม่กล้าคุยกับพี่ณัชบอกเสียงเบา ก่อนหน้านั้นเธอกับลูกฟลุ๊คสนิทกันมาก คุยกันบ่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องการ์ตูนเพราะทั้งสองต่างก็เป็นเซียนการ์ตูนด้วยกัน ณัชยอมรับว่าทุกครั้งที่คุยกับลูกฟลุ๊คเธอรู้สึกดีและมีความสุขมาก แม้การคุยกันของทั้งสองคนจะเป็นเรื่องการ์ตูนทุกครั้งไปก็ตามที เธอก็ดีใจที่ได้คุยกับเขา แต่แล้วครั้งหนึ่งที่งานกีฬาสีโรงเรียน ขณะที่เธอคุยกับลูกฟลุ๊คอย่างออกรสอยู่นั้น รถด่วนก็ปรี่เข้ามาหา หมอนั่นแกล้งตบไหล่ลูกฟลุ๊คเสียงดังและบีบคอเขาเล่นๆ ตอนนั้นณัชไม่คิดอะไรมากเพราะเพื่อนกันก็เล่นกันแรงๆ แบบนี้ประจำโดยเฉพาะพวกผู้ชาย

    ทว่าพอกลับมาถึงบ้านเมื่อณัชเปิดเฟสบุ๊คตรวจดูข้อความแจ้งเตือน ก็มีข้อความที่รถด่วนเขียนเอาไว้ ณัชจึงเปิดดู ซึ่งทำให้เธอขมวดคิ้วอย่างสงสัย พี่สาวและน้องสาวก็เข้ามาอ่านดูถึงกับมึนงงไปตามๆ กัน ‘อะไรของพี่คนนี่เนี่ย ตกลงมันยังไง’ ศิพูดขึ้นอย่างสงสัยในข้อความสั้นๆ ของรถด่วน ‘เรารู้แล้วว่าณัชชอบใคร

    ณัชเปิดดูข้อความนั้นอีกครั้ง  พี่กันกับศิถึงกับส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ

    เห็นชัดๆ ว่าเหมือนจะงอนพี่กันพูดเบาๆ

    พี่คิดว่ายังไง ผู้ชายแบบนี้น่ากลัวจริงๆศิแสดงความคิดเห็น ณัชถอนหายใจ

    การจะบอกชอบใครสักคนมันคงเป็นเรื่องยากสำหรับเขาล่ะมั้งพี่กันว่า ณัชส่ายหน้า

    ไม่ใช่หรอก การยอมรับความจริงต่างหากที่ยากสำหรับหมอนั่นศิกับกันมองหน้ากันอย่างแปลกใจ

    ยอมรับความจริงเหรอกันถามน้องสาว ณัชพยักหน้า

    เรื่องก็คือ รถด่วนเป็นคนไม่ชอบยอมแพ้ง่ายๆ หมอนั่นกลัวการถูกมองข้ามเลยต้องทำตัวให้เด่นเอาไว้ เช่น การสอบได้คะแนนดีๆ ในวิชาคณิตศาสตร์ก็เพื่อให้ทุกคนเห็นว่าเขาเก่งและเข้าหาเขา แต่รถด่วนไม่ชอบสอนใคร หมอนั่นคิดว่าการเข้าหาของคนอื่นก็แค่เพียงจะหาผลประโยชน์จากตัวเขาเท่านั้น" ประโยคสุดท้ายณัชพูดเสียงเบาให้ตัวเองเท่านั้นที่ได้ยิน ศิกับกันมองหน้ากันอย่างไม่เข้าใจ ณัชถอนหายใจ เป็นเรื่องยากที่จะอธิบายสั้นๆ เพื่อให้พี่น้องของเธอเข้าใจได้ง่ายๆ

    เนื่องจากหมอนั่นเป็นคนไม่ชอบยอมแพ้ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตาม เพราะคิดว่าแพ้แน่ๆ เลยไม่กล้ายอมรับความจริง อย่างเรื่องนี้ ถ้าหมอนั่นบอกว่าชอบณัชและอยากเป็นแฟนกับณัช ถ้าณัชปฏิเสธหมอนั่นก็จะอับอายมาก นั่นหมายความว่าหมอนั่นแพ้และนั่นไม่ใช่สิ่งที่หมอนั่นต้องการ ดังนั้นหมอนั่นจึงไม่อยากบอกว่าเขาชอบณัชแบบแฟนเพราะไม่อาจยอมรับความจริงได้

    งั้นแปลว่า ถ้าเขาชอบพี่แบบแฟนจริงๆ พี่ก็จะไม่ชอบเขาอยู่ดี ใช่ไหมล่ะศิถาม

    พี่ไม่ชอบที่เขาไม่กล้ายอมรับความจริงต่างหาก คนที่ไม่จริงใจและไม่จริงจังแบบนั้นคบไปก็เสียเวลาเปล่าณัชพูดทิ้งท้ายแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นปัญหาที่เธอต้องแก้ด้วยตัวเองอยู่ดี

    ************************


    วันวาเลนไทน์เวียนมาอีกครั้ง ไม่รู้เพราะอะไรถึงทำให้ณัชนึกถึงดอกกุหลาบสีขาวที่รถด่วนซื้อให้เมื่อสองปีที่แล้ว ความรักที่แสนบริสุทธิ์ ณัชถอนหายใจ เธอควรจะปล่อยอะไรๆ ให้เป็นไปตามกระแสโลกมากกว่าที่จะคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องไม่เป็นเรื่องอย่างนี้ การคิดหนักเรื่องรถด่วนทำให้เธอเสียเวลาในการสังสรรค์กับเพื่อนๆ

    นี่ณัช เธอชอบรถด่วนรึเปล่าแต่ถ้าเป็นการสังสรรค์แบบนี้ขอบายดีกว่า ณัชคิดและเตรียมจะลุกหนีจากกลุ่มเพื่อน

    เฮ้ยเดี๋ยวสิจะไปไหน นั่งคุยกันก่อนยัยเอยคว้าข้อมือณัชไว้และฉุดเธอให้นั่งลง ณัชมองหน้าเพื่อนสาวทั้งสามคน แพร-ไหม เอลี่และเอยมองหน้ากันไปมาอย่างมีพิรุธ

    พวกเรารู้อยู่แล้วว่าแกไม่ได้ชอบรถด่วนยัยเอยพูดเสียงยาน "ก็แค่ล้อเล่นเฉยๆ "

    จริงๆ แล้วพวกเธอควรจะรู้ว่าฉันกับรถด่วนไม่ได้เป็นอะไรกันตั้งแต่ทีแรก มันเป็นแค่เรื่องขำๆ สำหรับเพื่อนๆและหมอนั่นเท่านั้น

    มันไม่ใช่เรื่องขำๆ สำหรับฉันนะ!” เสียงพูดกึ่งตวาดจากด้านหลังทำให้ณัชถึงกับสะดุ้ง เพื่อนๆ ของเธอรีบลุกหนีกันไปหมด อย่าบอกนะว่าพวกหล่อนวางแผนเอาไว้!

    ณัชลุกขึ้นหันหลังกลับมาเผชิญหน้ากับรถด่วนที่ยืนตัวสั่นเทิ้มด้วยความรู้สึกที่เธอไม่อาจเข้าใจได้

    เธอไม่รู้อะไรเลย ไม่รู้อะไรเลยสักนิดเดียว!” รถด่วนพูดอย่างใส่อารมณ์ ณัชยืนมองนิ่งๆ ยกมือขึ้นกอดอกจ้องมองเขาอย่างท้าทายนั่นยิ่งทำให้รถด่วนหัวเสียหนักขึ้นไปอีก

    ฉันไม่ได้ชอบเธออย่างที่เธอคิด อย่าสำคัญตัวเองนักเลยรถด่วนพูดอย่างเดือดดาล ณัชกระตุกยิ้มที่มุมปาก เธอไม่ได้เดือดร้อนไม่ว่าเขาจะมีความรู้สึกดีๆ ให้เธอหรือไม่ก็ตาม อย่างไรเสียเธอก็ไม่ได้ชอบเขาและจะไม่มีวันชอบเขาด้วย  แต่ณัชไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงรู้สึกหงุดหงิดกับคนตรงหน้ายิ่งนัก เธออยากจะเดินหนีไปให้ไกลจากเขาแต่ก็ไม่อาจห้ามใจไม่ให้ต่อปากต่อคำกับเขาได้

    เหรอ...นายรู้ด้วยเหรอว่าฉันคิดอะไร ยังไง หึเธอหัวเราะในลำคอ รถด่วนกระสับกระส่ายราวกับคนมีความผิด

    จริงๆ ฉันตั้งใจจะฟังนายพูด แต่ว่านายมันขี้ขลาดเกินไปเมื่อถูกด่าซึ่งๆ หน้า รถด่วนถึงกับยืนตะลึง

    การมีคนชอบมันก็เป็นเรื่องที่ดีอยู่หรอก แต่การมีคนแบบนายมาชอบนี่มันเหนื่อยใจจริงๆ นายว่าฉันหลงตัวเองสินะ ฉันยอมรับว่าฉันก็คิดแบบเดียวกันกับนาย ฉันหลงตัวเองจริงๆ ขอโทษด้วยแล้วกันนะ หวังว่านายคงจะไม่อึดอัดใจ นายจะเลิกชอบฉันก็ได้ ยังไงเราก็ยังคงเป็นเพื่อนร่วมห้องกันและอีกไม่นานก็จะแยกจากกันแล้ว หวังว่านี่จะเป็นความทรงจำที่ดีระหว่างเราณัชพูดเสียงราบเรียบ ไร้ความรู้สึก รถด่วนทำอะไรไม่ถูก ได้แต่มองณัชเดินจากไปอย่างเงียบๆ มือขวากำกล่องของขวัญสี่เหลี่ยมจัตุรัสสีแดงที่ถือแอบไว้ข้างหลังแน่น

    ณัชเดินหนีมาดื้อๆ เธอคิดว่าถ้ารถด่วนไม่พูดความจริงออกมาเธอก็จะไม่เซ้าซี้เขาอีกแล้วและจะทำตัวเป็นปกติเหมือนเมื่อก่อนให้ได้ เธอเจ็บใจนักที่เขาว่าเธอหลงตัวเอง มันให้ความรู้สึกเหมือนเธอเป็นคนผิด

    งี่เง่าเองแท้ๆ ยังจะมีหน้ามาว่าคนอื่นอีกเธอบ่นพึมพำคนเดียวพลางทรุดตัวนั่งลงที่ชิงช้าใต้ต้นมะขามที่สวนป่าในโรงเรียน วันวาเลนไทน์ทำให้เด็กๆ และครูพากันปลดปล่อยตัวเองจากการเรียนการสอน จัดกิจกรรมขึ้นเพื่อไม่ให้ปิดเรียนเพราะวันแห่งความรักเป็นเหตุผลที่ฟังไม่ขึ้นเท่าไหร่ ณัชมองดูเด็กๆ ในโรงเรียนที่วิ่งไปวิ่งมา มอบดอกไม้และของขวัญให้แก่กัน บ้างก็แปะสติ๊กเกอร์รูปหัวใจที่เสื้อของเพื่อน บ้างก็แอบมายืนสารภาพรักกันเพียงสองคน เธอเห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งคุกเข่าขอความรักจากเด็กสาวตรงหน้าพลางยื่นช่อดอกไม้มอบให้หล่อน แล้วภาพนั้นก็ถูกบดบังด้วยเงาร่างของใครคนหนึ่ง ณัชถอนหายใจให้กับความตื้อแบบไม่มีเหตุผลของคนตรงหน้า เขาไม่ใช่สเปคผู้ชายในฝันของเธอและห่างไกลอยู่มากโขทีเดียว นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่เธอไม่ชอบเขาและไม่อยากให้เขาชอบ ณัชไม่อยากให้มีใครต้องเสียใจ

    เรารู้ว่าณัชไม่ชอบเรา แต่เราชอบณัช ชอบในแบบที่เพื่อนคนหนึ่งจะชอบเพื่อนได้ ไม่รู้สิ” รถด่วนพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้มหลังจากที่นิ่งไปสักพัก เขาก็ถอนหายใจอย่างแผ่วเบาก่อนจะเงยหน้าสบตากับณัชและมองเธออย่างจริงจัง แล้วเขาก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงหนักแน่นและมั่นคง 

    เราอยากเป็นมากกว่าเพื่อน แต่...แต่เพราะณัชเคยบอกว่าถ้าเป็นไปได้ก็ไม่อยากเป็นแฟนกับเพื่อนในห้องเดียวกันณัชเลิกคิ้วเหมือนสะกิดให้รถด่วนได้คิด 

    ถ้าเป็นไปได้...เขาว่า เรารู้ว่ามันเป็นการยากเพราะณัชเป็นคนจริงจัง แต่เราชอบณัช เอ่อ...มากกว่าเพื่อน ซึ่งเรา...ไม่รู้สิ คือ เราอยาก...ขอโทษที่พูดจาดูถูกณัชไป ขอโทษนะ...ครับณัชมองดูการกระทำของรถด่วนนิ่งๆ แล้วเธอก็กลั้นยิ้มไว้ไม่อยู่ รถด่วนใจชื้นขึ้นเมื่อเห็นเธอยิ้มออกมา เขาหัวเราะแก้เขินแล้วยื่นบางสิ่งบางอย่างให้เธอ ณัชมองดูอย่างงงๆ

    นี่อะไรเธอถาม 

    แทนคำขอโทษสำหรับทุกสิ่งที่เราทำไม่ดีกับณัช แทนคำว่าเพื่อนที่ไม่สนิทและคิดไม่ซื่อ แทนคำสารภาพรักและแทนคำขออนุญาตรัก เอ่อ ขอโทษนะ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เราทำอะไรแบบนี้ มันไม่โรแมนติกเลยว่าไหมเขาถามเสียงทะเล้น นั่นทำให้ณัชถึงกับหัวเราะออกมา เธอไม่รู้ว่าทำไมถึงได้รู้สึก...ดี  ณัชกล่าวขอบคุณและรับกล่องของขวัญนั่นไว้

    "ฉันจะรับมันไว้ ไม่ว่าจะนายจะให้แทนคำอะไรก็ตาม แต่สำหรับฉันมันจะแทนคำว่ามิตรภาพ ขอบคุณนะ"  

    ณัชยิ้มให้รถด่วน มันเป็นรอยยิ้มที่เต็มอิ่มไปด้วยความรู้สึกดีๆ ที่เกิดขึ้นในใจเธออย่างท่วมท้น  แม้จะรู้สึกแปลกใจว่าทำไมเธอถึงได้รู้สึกดีกับรถด่วนขึ้นมาได้ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เธอไม่ชอบเขาและออกจะทำท่ารังเกียจเขาด้วยซ้ำ  หรือแท้ที่จริงแล้วเป็นเพราะเธอไม่เคยรู้ตัวเลยว่าเธอมีความรู้สึกดีๆ ให้เขาอยู่กันแน่  ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม  ตอนนี้เธอสบายใจ  เพราะความรู้สึกไม่ดีทั้งหลายได้มลายหายไปพร้อมๆ กับกำแพงหัวใจนั้น...  

    ************************

     

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×